กำถั่ว (Fan Tan) หรืออีกชื่อเรียกหนึ่ง คือ ถั่วโป (โปเป็นคำภาษาจีน มีความหมายว่ารวย) หลายคนอาจจะยังไม่รู้จักเกมส์การพนันชนิดนี้ กำถั่วนั้นมีจุดเริ่มต้นมาจากเมืองจีน นับว่าเป็นเกมส์การพนันที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ มีอายุเก่าแก่กว่า 1500 ปี
เกมส์กำถั่วนั้นแพร่หลายในแถบทวีปเอเชีย โดยเฉพาะเมืองจีน ประเทศฮ่องกง แล้วก็หม่าเก๊า ความเป็นมาของคำว่า กำถั่ว มาจากการอุปกรณ์ในการใช้เล่นเกมส์การพนันประเภทนี้เช่น เม็ดถั่ว เม็ดมะขาม เมล็ดพืชที่มีลักษณะกลมอื่นๆซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงมาใช้เม็ดลูกปัดจนกระทั่งเปลี่ยนมาเป็นกระดุม
ในปัจจุบัน นอกจากนั้นยังมีเครื่องไม้เครื่องมือประกอบการเล่นอื่นๆอีก ได้แก่ ไม้ที่ใช้สำหรับเข้าคิวเม็ดกระดุม มีลักษณะตรง ความยาวราวๆ 1 ฟุต และฝาครอบที่ใช้สำหรับครอบถั่ว
วิธีการเล่นกำถั่วคือ ใช้เม็ดถั่วหรือกระดุมประมาณ 200-500 เม็ด แล้วใช้ภาชนะซึ่งเป็นฝาครอบใหญ่ครอบเม็ดถั่วทั้งหมด แล้วจากนั้นจะนำฝาครอบเล็กมาครอบเม็ดถั่วจำนวนหนึ่งออกมาจากกองใหญ่
แล้วก็จะทำการปิดฝาเอาไว้แล้วเปิดให้ผู้เล่นเริ่มทายว่าจะเหลือเม็ดถั่ว หรือกระดุมกี่เม็ด โดยจะมีเวลาการวางเดิมพันแต่ละรอบอยู่ที่ประมาณ 30 วินาที เจ้ามือก็จะเปิดฝาครอบออกมา และทำการนับจำนวนเม็ดถั่วทั้งหมดโดยจะนับไปเรื่อยๆ ทีละ 4 เม็ด ซึ่งเคล็ดลับกำถั่วไม่มีอะไรมาก เพียงต้องรู้จักการเดินเงินกำถั่วให้เป็นด้วย
วิธีการวางเดิมพันกำถั่ว
- การวางเดิมพันเลขเต็ง คือการแทงเลขตัวเดียว ซึ่งมีหมายเลข 1,2,3,4 ซึ่งอยู่ทางด้านขวาสุดของกรอบสีแดง โดยทายว่าเม็ดถั่วจะเหลือกี่เม็ด ถ้าจำนวนของถั่วตรงกับเลขตัวใดที่เราวางเดิมพันไว้ ก็จะชนะเดิมพันไป มีอัตราการจ่ายอยู่ที่ 1 ต่อ 2.85 เท่าของเงินเดิมพัน
- การวางเดิมพันแบบควบตัวเลข หรือเลขคู่ คือการแทงแบบ 2 ตัวเลข จะมีตัวเลขให้เลือกวางเดิมพันทั้งหมด 12 ช่อง แต่จะมีเลขอยู่ 6 คู่ด้วยกัน คือ คู่ 1:2 – คู่ 1:3 – คู่ 1:4 – คู่ 2:3 – คู่ 2:4 – คู่ 3:4 ข้อดีของการทายแบบนี้คือ คุณจะมีโอกาสในการทำเงิน จากเกมกำถั่วออนไลน์มากขึ้น แต่สิ่งที่น้อยลงก็คือ อัตราการจ่าย ที่จะเหลือเพียงแค่ 1 ต่อ 1 เท่าของเงินเดิมพันเท่านั้น (หักค่าต๋ง 5%)
- การวางเดิมพันแบบสามตัวเลข คือจะมีตัวเลขให้เลือกวางเดิมพันอยู่ 4 ชุดตัวเลขด้วยกัน คือ ชุดตัวเลข 1 2 3 – ชุดตัวเลข 124 – ชุดตัวเลข 134 – ชุดตัวเลข 2 3 4 ในการเดิมพัน 1 รอบ หากเลือกการทายแบบนี้ คุณจะสามารถเลือกตัวเลขได้ 3 ตัว ในการวางเดิมพันแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ซึ่งนั่นก็หมายความโอกาสที่คุณจะทายผิดมีเพียงแค่ 25% เท่านั้น และที่น่าสนใปมากกว่านั้น ก็คือ อัตราการจ่าย จะอยู่ที่ 1 ต่อ 1 เท่าของเงินเดิมพัน (หักค่าต๋ง 5%)
- การวางเดิมพันแบบคู่คี่ คือการเลือกวางเดิมพันแบบเต็งว่าจะออกเป็นคู่ หรือ คี่ ถ้าจำนวนเม็ดถั่วในกองสุดท้ายเหลือเท่ากับ 1 หรือ 3 เม็ด ถือว่าออกคี่ หรือถ้าจำนวนเม็ดถั่วในกองสุดท้ายเหลือเท่ากับ 2 หรือ 4 เม็ด ถือว่าออกคู่ มีอัตราการจ่ายอยู่ที่ 1 ต่อ 1 เท่าของเงินเดิมพันทั้งหมด (หักค่าต๋ง 5%)
- การวางเดิมพันแบบกั๊ก คือ การวางเดิมพันกั๊ก 2 ตัวเลข ซึ่งจะมีอยู่ทั้งหมด 4 คู่ด้วยกัน คือ 1,2 – 4,1 – 2,3 และ 3,4 ถ้าจำนวนเม็ดถั่วเหลือเท่ากับคู่เลขที่วางเดิมพันไปเลขใดเลขหนึ่งจะถือว่าเป็นฝ่ายชนะเดิมพัน และจะมีอัตราการจ่ายอยู่ที่ 1 ต่อ 1 ของเงินเดิมพันทั้งหมด (หักค่าต๋ง 5%)
- การวางเดิมพันแบบแทงกันเจ๊า คือ การวางเดิมพันแบบกัน ซึ่งจะมีตัวเลขอยู่ทั้งหมด 12 ชุดด้วยกัน คือ 1 nim 2 / 1 nim 3 / 1 nim 4 / 2 nim1 / 2 nim 4 / 2 nim 3 / 3 nim 1 / 3 nim 4 / 4 nim 1 / 4 nim 2 / 4 nim 3 ซึ่งตัวเลขหน้าหมายถึงเลขที่เราแทงเต็ง ถ้าจำนวนเม็ดถั่วในกองสุดท้ายเหลือเท่ากับจำนวนเลขตัวหน้า ถือว่าเราเป็นฝ่ายชนะเดิมพัน อัตราการจ่ายจะอยู่ที่ 2 ต่อ 1 ของเงินเดิมพันทั้งหมด (หักค่าต๋ง 5%)
- การวางเดิมพันแบบเต็ง จะมี 4 ตัวเลข คือ 1 Fan / 2 Fan / 3 Fan / 4Fan ถ้าจำนวนเม็ดถั่วในกองสุดท้ายตรงกับจำนวนใด ก็ถือว่าเลขตัวนั้นเป็นฝ่ายชนะเดิมพัน อัตราการจ่ายอยู่ที่ 3 ต่อ 1 (หักค่าต๋ง 5%)
จะเห็นได้ว่าการเดิมพันกำถั่วออนไลน์นั้น เป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่ได้รับความนิยม และสนใจจากนักพนันทั้งหลายเป็นอย่างมาก เพราะเกมส์การพนันคาสิโนกำถั่วออนไลน์นี้ มีรูปแบบให้เลือกวางเดิมพันหลากหลายรูปแบบ และสามารถทำเงินได้อย่างไม่ยากเย็นนัก เนื่องจากมีอัตราการชนะเดิมพันที่สูงมาก
และมีอัตราการจ่ายที่สูงเช่นกัน เพียงแต่เราต้องมีความเข้าใจในกฏ กติกา การเล่นของเกมส์คาสิโนกำถั่วออนไลน์ และศึกษาสูตรการเล่นพร้อมเคล็ดลับในการเอาชนะเดิมพันต่างๆ ก็อาจจะสร้างผลกำไรกลับคืนมาได้อย่างดงามเลยทีเดียว
